บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Gadget รายใหญ่ในประเทศไทย และเป็นผู้แทนจำหน่ายสายชาร์จแบรนด์ Energea ผู้นำด้านนวัตกรรมสายชาร์จระดับโลก

เปิดตัวสายชาร์จ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ รุ่น FibraTough, รุ่น DuraGlitz และ AluTough Edge ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Silver Ion ที่มีหน้าที่หยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค รวมถึงยกระดับความปลอดภัย และสามารถสนองต่อการใช้งานในยุคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าเชื้อโรคต่างๆ รอบตัวเรานั้นสามารถแพร่กระจายอย่างง่ายดายด้วยการสัมผัส ดังนั้น “มือ” ของเราจึงเป็นอวัยวะที่นำมาสู่แพร่การติดเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างดี ขณะเดียวกัน การนำสายชาร์จไปใช้งานตามที่ต่างๆ ก็อาจทำให้ปนเปื้อนกับเชื้อโรค ได้โดยที่ไม่รู้ตัว

ด้วยเหตุนี้ ผู้นำด้านผลิตสายชาร์จแบรนด์ Energea จึงได้นำนวัตกรรม Nano Silver Ion ที่ไม่ใช่แค่เพียงเคลือบ แต่ใส่ส่วนผสมลงไปในวัสดุการผลิตสายชาร์จ 3 รุ่น คือสายชาร์จรุ่น FibraTough, DuraGlitz และ AluTough Edge เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคพร้อมทั้งหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบนสายชาร์จตลอดอายุการใช้งาน  

นอกจากนี้ยังมีการยืนยันผลทดสอบจาก SGS Lab ที่ยืนยันว่า Nano Silver Ion สามารถกำจัดแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสได้ถึง 99.9% นอกจากนี้ยังกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 80% ภายใน 15 นาที โดยสายชาร์จรุ่นใหม่นี้ มีการทำงาน ที่สามารถหยุดยั้งการแพร่เชื้อ 3 ขั้นตอน คือ

  • จับเชื้อแบคทีเรียและเจาะผนังเซลล์ของเชื้อโรคที่อยู่บนสายชาร์จ
  • วัสดุของสายชาร์จ ที่มีสาร Nano Silver Ion จะเข้าไปหยุดยั้งการแพร่การเจริญเติบโต และการแบ่งเซลล์ ของเชื้อแบคทีเรียที่บนตัวสายชาร์จ 
  • เชื้อโรคที่หยุดการเจริญเติบโต จะเสื่อมสภาพและหายไปจากสายชาร์จด้วยตัวเอง

ในส่วนของคุณสมบัติของสายชาร์จ Energea รุ่นใหม่ สายชาร์จรุ่น FibraTough มีหัวชาร์จแบบ USB-A to Lightning ราคา 890 บาท จะมีคุณสมบัติหยุดยั้งการแพร่เชื้อโรคได้แล้ว ตัวสายชาร์จยังมีคุณภาพ และทนทาน

ตัว FibraTough  สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 50 กิโลกรัม ออกแบบสายชาร์จให้ทนทานกว่าเดิมโดยเปลี่ยนวัสดุจาก Fibra (เส้นใยผ้าสังเคราะห์แบบเฉพาะของ Energea) มาเป็นการผลิตสายถักด้วยเส้นใย Polyester ที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายขณะชาร์จ รับประกันการใช้งานถึง 5 ปี พร้อม ANTI-FRAY BRAIDING เทคโนโลยีการถักแบบเกรียวพิเศษ ทำให้ไม่มีการแตกของเส้นใยแม้ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานและหนักหน่วง นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบการงอข้อต่อมากกว่า 50,000 ครั้งในองศาที่มากกว่าเดิม

ในขณะที่สายชาร์จรุ่น DuraGlitz ตัวสายรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นถึง 50 กิโลกรัม ข้อต่อสายกับหัวชาร์จผ่านทดสอบการบิดงอถึง 30,000 ครั้ง

นอกจากนี้ยังเปลี่ยนวัสดุสายถักจาก Nylon เป็น Polyester รองรับไฟได้สูงสุด 3A พร้อมทั้งยังขยายระยะเวลารับประกันจากเดิม 3 ปี เป็น 5 ปี มีหัวชาร์จให้เลือก 2 แบบ คือ หัวชาร์จแบบ USB-A to Lightning ราคา 890 บาท และหัวชาร์จแบบ USB-A to USB-C ราคา 790 บาท

ส่วนสายชาร์จรุ่น AluTough Edge ถูกออกแบบมาเพื่อสายเกมมิ่งบนมือถือโดยเฉพาะ เพราะต้องเสียบสายชาร์จเล่นเกมบ่อย ขณะเดียวกันยังเหมาะสำหรับสายเอ็นเตอร์เทนที่ชอบใช้มือถือตั้งโต๊ะเพื่อดูหนังฟังเพลง ทำให้เล่นเกมได้อย่างไม่สะดุดให้ขัดใจแม้ขณะชาร์จไฟพร้อมทั้งยังใช้เป็นขาตั้งขณะดูหนัง โดยไม่ส่งผลเสียต่อ Port Charge อีกด้วย มีหัวชาร์จแบบ USB-A to Lightning ราคา 990 บาท 

สำหรับผู้ที่สนใจสายชาร์จรุ่น FibraTough, DuraGlitz และ AluTough Edge จากแบรนด์ Energea สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ ร้านในเครือของ iStudio by SPVi, Discovery Retail, Betrend, Mercular, Wemall, Lazada, Shopee, 425 Degree และ Gadgetthai

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เสียวหมี่เผยโฉม Mi LED หลอดไฟอัจฉริยะ
เผยโฉม “GARMIN FORERUNNER 245 MUSIC JAPAN EDITION” ต้อนรับโตเกียวเกมส์
เปิดตัว “Jabra Elite 7 Pro” และ “Jabra Elite 7 Active” หูฟังระดับเรือธง 2 รุ่นใหม่

Leave Your Reply

*