อินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Intel® Hybrid ภายใต้ชื่อรหัสแพลตฟอร์ม “Lakefield” ด้วยการยกระดับเทคโนโลยีการบรรจุสามมิติของอินเทล (Foveros 3D Packaging) และหน่วยประมวลผลกลางที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฮบริด เพื่อขยายขีดความสามารถของพลังและประสิทธิภาพ

จึงทำให้โปรเซสเซอร์ Lakefield เป็นโปรเซสเซอร์ขนาดเล็กที่สุดที่สามารถส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานระดับ Intel Core บนระบบปฏิบัติการ Windows ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งด้านผลิตภาพ และเติมเต็มประสบการณ์การสร้างคอนเทนต์ อยู่ในอุปกรณ์สุดบางเบาและมีรูปทรงใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม

“โปรเซสเซอร์ Intel Core ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel Hybrid นับเป็นการพิสูจน์มาตรฐานครั้งสำคัญในวิสัยทัศน์ของอินเทลที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรม PC บนแนวทางการสร้างประสบการณ์เพื่อออกแบบซิลิคอนที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมและ IPs ที่เป็นเอกลักษณ์ และด้วยความร่วมมือที่เหนียวแน่นทางด้านวิศวกรรมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ของเรา ทำให้โปรเซสเซอร์รุ่นต่างๆ ของอินเทลสามารถปลดล็อกศักยภาพนวัตกรรมในกลุ่มอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลายในอนาคต” 

เหตุผลที่ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับนวัตกรรม PC รูปลักษณ์ใหม่:โปรเซสเซอร์ Intel Core ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel Hybrid นี้สามารถส่งมอบการใช้งานแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เต็มรูปแบบ มีขนาดแพ็คเกจเล็กลงถึง 56% และใช้ขนาดบอร์ดเล็กลงถึง 47%

ทั้งยังสามารถยืดเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผู้รับผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน (OEMs) ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอุปกรณ์ในรูปทรงใดๆ ทั้งจอเดี่ยว จอคู่ และจอพับได้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งาน PC ตามที่ลูกค้าคาดหวัง รวมถึงเหตุผลอื่นๆ ดังนี้: 

  • เป็นโปรเซสเซอร์ Intel Core ตัวแรกที่มาพร้อมหน่วยความจำ Package-on-Package (PoP) เพื่อ ขนาดของบอร์ดที่เล็กลงกว่าเดิม 
  • เป็นโปรเซสเซอร์ Intel Core ตัวแรกที่ส่งมอบพร้อมการใช้พลังงาน SoC ขณะสแตนด์บายที่ต่ำถึง 2.5 มิลลิวัตต์ เพื่อยืดระยะเวลาระหว่างการชาร์จได้นานขึ้นโดยสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 91% เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ ซีรีส์ Y
  • เป็นโปรเซสเซอร์อินเทลตัวแรกที่มาพร้อมกับไปป์จอแสดงผลคู่ในตัวแบบเนทีฟ เพื่อความเข้ากันได้กับเครื่อง PC หน้าจอคู่และจอพับได้อย่างสมบูรณ์

ช่วงเวลาที่คุณจะสามารถเป็นเจ้าของได้: ณ ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์สองรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core พร้อมเทคโนโลยี Intel Hybrid และได้ร่วมมือพัฒนาทางด้านวิศวกรรมกับอินเทล

ประกอบด้วย Lenovo ThinkPad X1 Fold  PC เครื่องแรกที่มาพร้อมหน้าจอ OLED โค้งงอได้ที่สามารถใช้งานได้จริงที่เพิ่งเปิดตัวในงาน CES2020 และยังมี Samsung Galaxy Book S ที่ทำงานบนโปรเซสเซอร์ของอินเทลและคาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

เกี่ยวกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพ: โปรเซสเซอร์ Intel Core i5 และ i3 มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel Hybrid ใช้ขุมพลังจากคอร์ Sunny Cove ขนาด 10 นาโนเมตร เพื่อรองรับเวิร์กโหลดขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้น

ในขณะที่คอร์ Tremont จำนวนสี่คอร์พร้อมความสามารถด้านการประหยัดพลังงาน จะคอยปรับสมดุลพลังงานและปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับภาระงานเบื้องหลัง

ทั้งนี้โปรเซสเซอร์สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ Windows ทั้งประเภท 32 และ 64 บิตและยังสามารถช่วยสร้างสถิติใหม่ในการออกแบบรูปทรงให้บางเฉียบและมีน้ำหนักเบาที่สุดอีกด้วย

ขนาดแพ็คเกจที่เล็กที่สุด เป็นจริงได้ด้วย Foveros: ด้วยเทคโนโลยีการซ้อนทับสามมิติ (Foveros 3D Stacking) ทำให้ตัวโปรเซสเซอร์สามารถลดขนาดพื้นที่แพ็คเกจลงได้อย่างมาก

โดยมีขนาดเพียง 12x12x1 มิลลิเมตร หรือประมาณเหรียญสิบเซนต์เท่านั้นเอง ด้วยการซ้อนกันของดายสองตัวและ DRAM สองชั้นในรูปแบบสามมิติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้หน่วยความจำภายนอกอีกต่อไป

การจัดลำดับงานของระบบปฏิบัติการที่นำโดยฮาร์ดแวร์: การเปิดใช้งานการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างหน่วยประมวลผลกลางกับตัวจัดลำดับงานของระบบปฏิบัติการ จะช่วยให้สามารถเรียกใช้แอปได้บนคอร์ที่เหมาะสม และสถาปัตยกรรมไฮบริดของหน่วยประมวลผลกลางนี้จะมอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นต่อพลังงานที่ SoC ใช้ได้ถึง 24% อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพแบบเธรดเดียวสำหรับแอปพลิเคชันการประมวลผลเชิงลึกให้รวดเร็วขึ้นถึง 12%

รองรับ Throughput เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า บน Intel UHD สำหรับเวิร์กโหลด AI-Enhanced: การคำนวณเอนจิ้นของหน่วยประมวลผลกราฟิกที่ยืดหยุ่น จะช่วยให้การทำงานของแอปพลิเคชันการอนุมานที่ใช้ Throughput สูง สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น รวมไปถึงการตกแต่งรูปแบบวิดีโอ อนาไลติกส์ หรือการเพิ่มความคมชัดรายละเอียดรูปภาพ ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วย AI 

ประสิทธิภาพกราฟิกที่ดีขึ้นถึง 1.7 เท่า : กราฟิก Gen11 สามารถส่งมอบการใช้งานมีเดีย และสร้างคอนเทนต์ได้อย่างไม่มีสะดุดแม้ต้องใช้งานนอกสถานที่ ด้วยกราฟิกที่ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดบนระบบของโปรเซสเซอร์อินเทลขนาด 7 วัตต์ ช่วยให้การแปลงไฟล์คลิปวิดีโอเร็วขึ้นถึง 54% และรองรับจอแสดงผล 4K ภายนอกสูงสุดถึงสี่จอด้วยกัน ให้ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำไปกับภาพที่สมบูรณ์เต็มตาสำหรับในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ และรับชมความบันเทิงต่างๆ

การเชื่อมต่อกิกะบิต: รองรับ Intel® Wi-Fi 6 (Gig+) และโซลูชัน Intel LTE ให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์การประชุมผ่านวิดีโอและสตรีมมิ่งออนไลน์แบบไม่มีสะดุด

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เมื่อยุคของ “Tweetbot” สิ้นสุดลงอย่างไม่เป็นทางการ
แอปเปิลเปิดรับสมัครโครงการ “Swift Student Challenge 2024”
ปุ๊บปั๊บก็วาร์ปสู่การท่องเที่ยวที่ล้ำกว่าเดิมได้ ด้วย Galaxy AI บัดดี้คู่ใจ

Leave Your Reply

*