เชื่อว่าหลายคนมักเจอปัญหาสมาร์ทโฟนเครื่องรักทำงานช้าลงหลักจากใช้งานไปสักระยะ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ เพราะบางครั้งการใช้งานนานๆ โดยไม่ได้ล้างเครื่องอาจจะทำให้หน่วยความจำเต็มโดยไม่รู้ตัว

วันนี้เรามีคำแนะนำพื้นฐานที่สามารถทำเองได้มาแนะนำกัน ขั้นตอนพวกนี้สามารถช่วยให้สมาร์ทโฟนอย่าง iPhone ของคุณกลับมาเร็วขึ้นได้อีกครั้ง

ลดการแสดงผล Notification

วิธีแรก หลายคนไม่เชื่อ เพราะการแจ้งเตือน หรือ Notification มากเกินไปก็อาจจะทำให้เครื่องนั้นช้าลง ดังนั้นควรแก้ปัญหาด้วยการลบ Notification ออกก็จะดีไม่น้อยครับ

อัปเดต iOS ให้ใหม่เสมอ

การอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ถือว่าเป็นการช่วยให้ตัวเครื่องมีความเร็วขึ้น และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตกับ iOS 12 จะมีเวอร์ชั่นใหม่ที่เหมาะกับทุกเครื่องเพราะเน้นให้เร็วขึ้นด้วย

ดังนั้นถ้าเครื่องช้าลงอะไรไม่ได้ การอัปเดต OS ก็ช่วยคุณได้

ตรวจดูว่าความจำในมือถือคุณเต็มหรือไม่

การดูพื้นที่ความจำของมือถือก็เป็นอีกวิธืที่สามารถทำให้เครื่องเร็วขึ้นได้ การดูนั้นสามารถเข้าไปได้ที่ Settings > General > iPhone Storage เท่านี้ก็เข้าไปดูและจัดการได้ทันที

ลบประวัติการเข้าเว็บ หรือ File ที่ไม่จำเป็นออก

ปัญหาหนึ่งของคนใช้งาน iPhone คือที่พื้นที่เต็มที่เกิดจากการเข้าเว็บไซต์ที่มักจะเก็บประวัติ, ข้อมูลต่างๆ เช่น Catch Memory หรือ จะเป็น Cookie เป็นต้น ล้วนแต่ทำให้พื้นที่เครื่องเต็มและช้าลง บางครั้งวิธีจัดการง่ายแค่เข้าไปลบใน Browser สำหรับ Safari > Setting > Clear History and Website Data

ปิด Background App Refresh ถ้าไม่จำเป็น

ฟีเจอร์หนึ่งที่ทำให้เครื่องทำงานช้าลงเห็นจะเป็น Background App Refresh ที่จะมีการทำงานเมื่อ Apps มีการปิดไปแล้วยังทำงานอยู่ เมื่อเปิดหลายๆ ตัวก็อาจจะทำให้การทำงานนั้นมากขึ้น ถ้าแนะนำควรดูเป็นบางตัวเพราะอาจจะมีผลกระทบถ้าปิดทั้งหมด

ใช้ Widget เท่าที่จำเป็น

Widget นั้นมีไว้เพื่อความสะดวกของพวกเราในการใช้ App ที่เราใช้เป็นประจำเราต้องใช้งาน Widget เท่าที่จำเป็น เพราะการใช้งานWidget นั้น คือการตั้งให้สมาร์ทโฟนประมวลและแสดงผลของข้อมูลใน App ให้เราทราบตลอดเวลา ดังนั้น จึงเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ถ้าเราไม่ได้ใช้งานข้อมูลเหล่านั้นจริง

ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่

สำหรับ iOS11 มีเรื่องของการปรับลดประสิทธิภาพเมื่อพบว่าแบตเตอรี่เสื่อม ทำให้หลายคนบ่นว่าช้า แต่ความจริงในเวอร์ชั่นใหม่ๆ สามารถปิดได้ แต่แนะนำนว่าถ้าพบว่าแบตเตอรี่เสื่อมแล้วเครื่องทำงานช้า ก็ให้ลองเคลมแบตเตอรี่ก็จะดีไม่น้อย เพราะตอนนี้มีการปรับลดราคาแบตเตอรี่แล้ว

ลอง Restore iPhone ใหม่

สุดท้ายหากเครื่องคุณมีปัญหาเรื่องการทำงานและได้แก้ไขไปก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้วอาจจะยังไม่ดีขึ้น แนะนำลอง Restore ที่สำรองทั้งบนคอมพิวเตอร์ หรือ iCloud ก็ได้เช่นกัน เพราะบางครั้งการคืนค่าเดิม ก็จะทำให้เครื่องเร็วขึ้นได้

หากลองทำทั้งหมดแล้วยังไม่ดีขึ้นก็แสดงว่าอาจจะต้องถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว โดยปกติ iPhone เป็นมือถือที่ใช้งานได้ 3 ปีก็ถือว่าสุดๆ แล้ว ถ้ามันถึงแก่เวลาการเปลี่ยนก็เป็นคำตอบที่ดี ยกเว้น งบไม่เอื้อ แต่วิธีเหล่านี้ที่แนะนำก็ช่วยได้แน่นอนครับ

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เทคนิคการขายโทรศัพท์มือ2 ยังไงให้ไม่โดนกดราคา ไม่ขาดทุน
รู้หรือไม่! นี่คือผลไม้ 5 ชนิดที่สามารถนำมาทำความสะอาดมือถือได้
5 แอปดีต่อใจ “บล็อกเบอร์สแปม หลอกลวง จากมิจฉาชีพ ทั้ง iOS และ Android

Leave Your Reply

*