OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Reno3 Pro อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวออนไลน์ผ่านช่องทาง Live Streaming

โดย OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกล้องหน้าคู่รุ่นแรกของโลกที่มีความคมชัดสูงสุดถึง 44ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 4ตัว คมชัดสูงสุด 64ล้านพิกเซล

OPPO Reno3 Pro

สรุปสเปกของ OPPO Reno3 Pro

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด 1200 x 2640 พิกเซล ขนาด 6.58 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz      
  • ขนาดตัวเครื่อง:  158.8 x 73.4 x 8.1 มม.      
  • น้ำหนัก:  175 กรัม      
  • ชิปเซ็ตประมวลผล: MediaTek Heilo P95 | PowerVR GM9446 
  • หน่วยความจำ:  RAM ขนาด 8GB    
  • หน่วยความจำภายในความจุ:  256GB    
  • หน่วยความจำภายนอก MicroSD  
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด44ล้านพิกเซล2ล้านพิกเซล (Depth Sensor) 
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น    
  • กล้องตัวหลักความละเอียด64 ล้านพิกเซล PDAF, OIS 
  • เลนส์ Telephoto  ความละเอียด13ล้านพิกเซล Optical 2ซูมได้สูงสุด 20 เท่า   
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล      
  • เลนส์ล้านพิกเซล B/W 
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical   
  • แบตเตอรี่ความจุ: 4025mAh      
  • รองรับ VOOC Charge 30W (แบบสาย) สามารถชาร์จไฟได้เต็มเร็วสุด 50 นาที
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Color OS 7 
  • ราคาในประเทศไทย : 18,990 บาท 
  • สี:  Auroral Blue, Midnight Black, Sky White 

ทลายข้อจำกัดในทุกสภาพแสงชัดเจนในทุกช็อต

กล้องหน้า OPPO Reno3 Pro

เป็นที่ทราบกันดีว่า OPPO นั้นโดดเด่นในเรื่องของการพัฒนาสมาร์ทโฟนในด้านการถ่ายรูปเซลฟี่เป็นอย่างมาก จนได้รับนิยามว่าเป็น “Selfie Expert” ในวงการสมาร์ทโฟน และ OPPO Reno3 Pro เองก็มาพร้อมกล้องหน้าคู่ที่คมชัดมากที่สุดในโลกในขณะนี้

โดยความละเอียดอยู่ที่ 44ล้านพิกเซล และยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ผิวหน้าคุณดูสวยงามและเป็นธรรมชาติเมื่อถ่ายเซลฟี่ OPPO จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเซลฟี่อย่างต่อเนื่อง เกิด Dual Lens Bokehช่วยให้พื้นหลังละลายได้อย่างมีมิตินอกจากนี้ยังมาพร้อมอัลกอริทึม Ultra Night Selfie Mode ให้คุณสามารถถ่ายเซลฟี่ได้สวย คมชัด และสว่าง แม้ในที่แสงน้อย ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่กล้องหน้าของสมาร์ทโฟนนั้น มีโหมดถ่ายรูปในเวลากลางคืน

กล้องหลัง OPPO Reno3 Pro

สำหรับกล้องหลัง OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MPประกอบด้วยกล้องหลัก 64ล้านพิกเซล, เลนส์ Telephoto 13ล้านพิกเซล, เลนส์Ultra Wide Angle 8ล้านพิกเซล และเลนส์ Mono 2ล้านพิกเซล

โดย OPPO Reno3 Pro สามารถถ่ายได้ทั้งมุมกว้าง ถ่ายภาพบุคคล และถ่ายภาพระยะไกลที่สามารถซูมดิจิตอลได้สูงสุด 20 เท่า พร้อมกับฟังก์ชั่น Ultra Clear 108 ล้านพิกเซล Image ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพการถ่ายภาพให้สามารถเก็บได้ทุกรายละเอียด ทำให้ได้ภาพที่มีขนาดถึง 108 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ OPPO Reno3 Pro ยังมี Ultra Dark Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้สวยแม้ในสภาพแวดล้อมที่แทบไม่มีแสงเลยอีกด้วย

OPPO Reno3 Pro

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ OPPO Reno3 Pro สามารถถ่ายวิดีโอได้นิ่งด้วย Ultra Steady Video 2.0 ที่พัฒนามาจาก Ultra Steady Video ให้คุณใช้ชีวิตได้สุดในทุกสถานการณ์ พร้อมถ่ายได้นิ่งด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) มาพร้อม Video Bokeh, Video Zoom และ AI Beauty Mode ที่จะช่วยให้ผู้ใช้มีวิดีโอที่เหมือนภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมี Soloopโปรแกรมตัดต่อวิดีโออัจฉริยะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่สามารถสร้างเรื่องราวและบันทึกความทรงจำดีๆ ผ่านวีดีโอได้ง่ายและมีคุณภาพเสมือนมืออาชีพ

OPPO Reno3 Pro

นวัตกรรมการออกแบบทางสุนทรียศาสตร์ของ OPPO ที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก

OPPO Reno3 Pro ออกแบบด้วยดีไซน์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่จาก OPPO มอบความงามอันไร้ขีดจำกัด และเทคโนโลยีให้แก่ผู้ใช้ ในรูปแบบที่เบาและบางกว่าเดิม โดยมาพร้อมจอแสดงผลแบบ Dual Punch-hole Super AMOLED ขนาด 6.4” และวัสดุ E3 sunlight display เพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นหน้าจอเมื่อมีแสงจ้าและช่วยถนอมสายตาเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย

พร้อมดีไซน์ภายใต้แรงบันดาลใจจากแสงสีบนท้องฟ้า ซึ่งทั้งหมด 3 สี แต่ละสีสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของสีสันบนท้องฟ้าที่แตกต่างกันตามกาลเวลา ได้แก่ Auroral Blue แรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามหัวค่ำที่มาพร้อมริ้วความสวยงามที่พริ้วไหวบนท้องฟ้าทางยุโรปเหนือ, Midnight Black ตัวแทนความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด แต่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา และ Sky White Limited Edition ตัวแทนความเบิกบานสดใสของท้องฟ้ายามเช้าที่เห็นแล้วให้ความรู้สึกสบายตาเรียกได้ว่า OPPO Reno3 Pro มีความเป็น Fashionable เป็นอย่างมาก เพราะสามารถผสมผสานความเป็นแฟชั่นและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ภายใต้การทำงานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ขั้นสูง

OPPO Reno3 Pro

OPPO Reno3 Pro มาพร้อม RAM 8GB, ROM 256GB และยังรองรับหน่วยความจำที่มากขึ้นได้ พร้อมถาดใส่ซิมแบบ Triple slot ที่รองรับซิมการ์ดได้ 2 ซิม และใส่ Memory Card พร้อมกันได้

นอกจากนี้ OPPO Reno3 Pro ยังมาพร้อม 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50เปอร์เซ็นต์ ภายใน 20นาที เป็นมากกว่า บริษัทสมาร์ทโฟน

ผลิตภัณฑ์ IoT ถือเป็นภารกิจส่วนหนึ่งของ OPPO ในการ “มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสู่ผู้บริโภค ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและมีคุณภาพสูง”

ในครั้งนี้ OPPO ได้เปิดตัว หูฟัง OPPO Enco W31 หูฟังไร้สายคล้องคอรุ่นที่สามของ OPPO ต่อจากหูฟัง OPPO Enco Q1 และ OPPO Enco M31

โดยหูฟังของ OPPO จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มาพร้อมคุณภาพเสียงที่สมจริง ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี และสวมใส่สบาย

โดย OPPO Reno3 Pro นั้นจะเปิดให้ทำการพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 พฤษภาคม 2563 ในราคา 18,990 บาท และเมื่อจองกับ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รับไปเลยโปรโมชั่น 3 ต่อ รวมมูลค่าทั้งหมด 7,990 บาท โดย

ต่อที่ 1 รับฟรี OPPO E-VIP Service รับประกันหน้าจอนาน 1 ปี มูลค่า 6,000 บาท

ต่อที่ 2 มอบกระเป๋าสุดเท่ OPPO Backpack มูลค่า 1,490 บาท และยังไม่พอ

ต่อที่ 3 รับไปเลยส่วนลด 500 บาท ในวันรับเครื่อง

และหากจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย สามารถเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 8,990 บาท พร้อมรับฟรีของสมนาคุณ OPPO E-VIP Service ประกันหน้าจอนาน 1 ปี และ OPPO Backpack มูลค่ารวมถึง 7,490 บาท

สำหรับหูฟังไร้สาย OPPO Enco W31 จะทำการจำหน่ายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ในราคา 1,999 บาท พร้อมโปรโมชั่นมากมายอีกเพียบ

สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือโปรโมชั่นสามารถเช็คได้ที่ https://web.facebook.com/oppothai/

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Apple ปล่อย iOS 13.2 เพิ่มการรองรับ AirPods Pro และ Deep Fusion ของ iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น
“ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” อาจสร้างปัญหาต่อการผลิต iPhone 9 และ AirPods
ซัมซุงปฏิวัติวงการจอภาพ เปิดตัว Neo QLED, MICRO LED, OLED  ปี 2024 ประกาศการก้าวสู่ยุค “AI Screen”

Leave Your Reply

*