กลับมาพบกับรีวิวของพวกเรา ที่ในครั้งนี้นั้นเป็นคิวของหูฟัง Wireless จากค่าย Skullcandy ที่มีการพูดถึงมากๆ ในตอนนี้ และตอนนี้เรากำลังจะได้ลองเล่น Skullcandy Venue  ตัวจริงๆ กันแล้ว

ความพิเศษของ Skullcandy Venue รุ่นนี้คือเป็นหูฟัง Active noise canceling(ANC) ที่ออกแบบโดยใช้แนวคิด Noise Canceling For Every One เพื่อเราลบภาพของหูฟัง ANC ราคาแพงที่เหมาะกับนักธุรกิจ และการเดินทางโดยเครื่องบิน แต่เพื่อให้ทุกคนได้ Create your own space ในทุกๆ ที่ที่ไป

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวหูฟัง Skullcandy Venue สีขาว
  • เคสแข็งใส่หูฟัง ทรงกลมดีไซน์เรียบๆ
  • สายชาร์จ USB
  • สายแจ๊ค 3.5 มม.
  • คู่มือการใช้งาน

รูปร่างและการดีไซน์ภายนอกของ Skullcandy Venue ที่มาพร้อมกับความเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา

เมื่อแรกแกะกล่องออกมาเราจะเห็นว่าภายในเคสของ Skullcandy Venue ได้จัดเรียงของไว้อย่างเรียบร้อยและพร้อมใช้งานมากๆ ครับ ตัวเครื่อง Skullcandy Venue สีขาวถูกวางไว้ในกล่องบอกเลยเด่นสุดๆ

มาดูตัวเครื่องในมุมต่างๆ กันบ้างเริ่มกันด้วยส่วนของ ตัวเครื่อง Skullcandy Venue ด้านขวาที่เป็นตำแหน่งของ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง สำหรับการใช้งานก็ทำได้ง่ายๆ หากคุณทำการกดหนึ่งครั้งจะเป็นการควบคุมระดับเสียง เพิ่ม-ลด (- , +) พร้อมทั้งมีไฟบอกสถานะของแบต

แต่ถ้าหากเราต้องการจะเปลี่ยนเพลง เพียงแค่กดปุ่มบวก(+) ค้างไว้จะเป็นการเลื่อนเพลงไปด้านหน้า หรือถ้าอยากย้อนกลับไปฟังเพลงก่อนหน้าก็เพียงแค่กดปุ่มลบ(-) ค้างไว้

นอกจากนี้ในส่วนของหูฟังข้างนี้ยังมีส่วนของพอร์ท USB และพอร์ทสำหรับเสียบสายหูฟังอยู่ในตำแหน่งถัดลงมาทางด้านขวาล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถกดใช้งานได้ง่ายครับ ยังไม่หมดครับเพราะหูฟังด้านขวายังมีส่วนของไมค์ที่จะคอยดูดเสียงเวลาพูดเป็นรูเล็กๆ

ตัวแพดนั้นนุ่มสบาย  ขนาดของแพดถึงจะบอกว่าเป็น Over Ear

มาต่อกันที่ตัวเครื่องด้านซ้ายบ้างเราจะเห็นว่ามีจุดเล็กๆ ด้วยกันทั้งหมด 4 จุด โดยจุดดังกล่าวจะเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงค่าไฟของแบตเตอรี่ ถัดลงมาเป็นตำแหน่งของปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง การเช็คแบตเตอรี่เพียงแค่กดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง 1 ที ไฟสีฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีขาวเพื่อแสดงสถานะของแบตเตอรี่ และด้านล่างสุดคือปุ่มสำหรับใช้ในการตัดเสียงรบกวน(ANC) ให้เสียงชัดเจนและขจัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยม

ตัวของก้านหูฟังสามารถปรับขนาดให้พอดีกับศีรษะได้หลายระดับเลยครับทำให้สวมใส่ได้สบายบนศีรษะ

ตัว Earpad ที่ครอบลงหูนุ่มมากๆ ครับ ทำให้ใส่นานได้ไม่เจ็บหรือรำคาญและน้ำหนักกำหลังดีเมื่อได้สวมใส่ ตัว Earpad  ครอบใบหูได้พอดี

เล่าให้ฟังหลังได้ใช้งาน Skullcandy Venue ส่วนตัวหลังได้ทดลองเล่นมาสักระยะ

ส่วนตัวคิดว่าเสียงเพลงที่ฟังด้วยทำออกมาได้ดีมากๆ จะเปิดแนวไหนก็ฟังแล้วสบายหู เสียงเบสถือว่ารุ่นนี้ทำได้ออกมาโดดเด่นมากที่สุด เนื้อเสียงละเอียด สามารถฟังเพลงได้หลากหลายแนวดี เอาเป็นว่าหากใครกำลังมองหูฟังไวร์เลสเบสแรงๆ อยู่ แล้วละก็เชื่อว่าต้องถูกใจตัวและหลงรัก Skullcandy Venue รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างตัวนี้แน่นอนครับ

และสำหรับคนที่มีเวลาน้อย Skullcandy Venue มาพร้อมกับระบบ Fast Charge ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้นานกว่า 4-5 ชั่วโมง แต่จากที่ลองหากชาร์จเต็ม 100% ใช้งานได้ 1 วันเต็มๆ เลยครับ และอีกจุดเด่นคือมันสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างดี

ส่วนตอนสวมใส่ก็สบายคอ สบายหูดีครับ อาจจะด้วยดีไซน์ และน้ำหนักที่กำลังดีทำให้มีความชิลล์ขณะสวมใส่ ทุกอย่างสมราคาจนถือว่าเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังไว้ใช้งานฟังเพลงขณะทำงาน เดินทาง หรือท่องเที่ยว การฟังเพลงสบายๆ แต่ Skullcandy Venue อาจจะไม่เหมาะเท่าไรสำหรับการใส่ออกกำลังกาย

Skullcandy Venue หูฟังไร้สายถือเป็นตัวเลือกของหลายๆ คนหากใครกำลังมองหาหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ราคาไม่แรงมากยิ่งหากคุณเป็นคอเพลงที่ไม่ยึดติดอยู่ในแนวเพลงเพียงแนวเดียว ลองมอง Skullcandy Venue ดูได้นะครับ โดย Skullcandy Venue มีสีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ ขาว และ ดำ และขายในราคา 7,200 บาท

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
[เล่าเท่าที่เล่น] รีวิว “HUAWEI FreeClip” หูฟังระดับเรือธงดีไซน์ล้ำ ฟังก์ชันครบ
ครั้งแรกกับ “Samsung Galaxy Buds 2” หูฟังไร้สายใหม่ ดีไซน์เรียบหรู ตอบโจทย์คอเพลงสุดๆ
[เล่าเท่าที่เล่น] รีวิว “SONY SRS-XB100” ใหม่! กะทัดรัด สีพาสเทล สวยละมุน น่ารักเวอร์!

Leave Your Reply

*